หน้าปัดโอนิกซ์
หน้าปัดแต่ละชิ้นคือผลงานศิลปะย่อส่วน สีสัน แสงสะท้อน และพื้นผิว รวมถึงองค์ประกอบการตกแต่งและการออกแบบโดยรวมทำให้นาฬิกามีคุณลักษณะเฉพาะตัว Rolex เชี่ยวชาญในการรังสรรค์หน้าปัดนาฬิกาภายในทุกขั้นตอนไปจนถึงกระบวนการผลิต ตั้งแต่การร่างแบบเบื้องต้นไปจนถึงการตรวจสอบขั้นสุดท้าย รวมถึงการทำสีหรือการตกแต่ง กระบวนการนี้มีส่วนเกี่ยวข้องกับหลายขั้นตอนและการดำเนินการที่ต้องใช้ความชำนาญเฉพาะทาง โดยความเชี่ยวชาญเฉพาะทางบางกลุ่ม ยกตัวอย่างเช่น การเคลือบสี ถูกริเริ่มมาตั้งแต่ยุคแรกๆ ของการผลิตนาฬิกา ส่วนอื่นๆ เกิดจากการใช้เทคโนโลยีล้ำสมัย เช่น แมกนิตรอนสปัตเตอริง ซึ่งเป็นเทคนิคที่ซับซ้อนในการทำสีพื้นผิวของหน้าปัดโดยการเคลือบฟิล์มบางๆ ของวัสดุไว้ในสภาวะสุญญากาศ การผสานรวมทักษะและเทคโนโลยีดั้งเดิม ทำให้การผลิตหน้าปัดของ Rolex เป็นไปตามปรัชญาที่ชี้นำแบรนด์ได้อย่างสมบูรณ์แบบ นั่นคือการแสวงหาคุณภาพระดับสูงสุดเพื่อให้ได้ผลงานที่ไร้ที่ติและใช้งานได้เป็นเวลานาน
ขอบหน้าปัดแบบร่อง
ขอบหน้าปัดแบบร่องของ Rolex เป็นสัญลักษณ์ของความแตกต่าง แต่เดิมร่องของขอบหน้าปัด Oyster มีขึ้นด้วยวัตถุประสงค์ด้านการใช้งาน โดยทำหน้าที่ยึดขอบหน้าปัดลงบนตัวเรือนเพื่อประกันประสิทธิภาพในการกันน้ำของนาฬิกา ดังนั้นจึงเหมือนกับร่องบริเวณตัวเรือนด้านหลัง ซึ่งต้องใช้เครื่องมือพิเศษเฉพาะของ Rolex ในการสกรูลงบนตัวเรือนเพื่อการกันน้ำ แต่เมื่อเวลาผ่านไปการเซาะร่องได้กลายเป็นองค์ประกอบที่มีความงดงาม และเป็นเอกลักษณ์อันโดดเด่นของ Rolex อย่างแท้จริง ปัจจุบันขอบหน้าปัดแบบร่องเป็นสัญลักษณ์ของความแตกต่าง Day-Date 40 เรือนนี้ทำจากทองคำ
ทองคำ 18 กะรัต
จากการใช้งานโรงหล่อเฉพาะของแบรนด์ ทำให้ Rolex สามารถหล่อโกลด์อัลลอย 18 กะรัต คุณภาพสูงสุดได้อย่างเหนือชั้น ตามสัดส่วนของเงิน ทองแดง แพลทินัม หรือพาลาเดียมที่เติมเข้าไป จะได้ทอง 18 กะรัตประเภทต่างๆ เช่น ทองคำ ทองคำขาว และ Everose gold โดยจะผลิตจากโลหะที่มีความบริสุทธิ์มากที่สุดเพียงเท่านั้น และผ่านการตรวจสอบภายในห้องปฏิบัติการของ Rolex อย่างพิถีพิถันด้วยเครื่องมือทันสมัย ก่อนที่จะมีการหล่อและขึ้นรูปทองคำ ด้วยความใส่ใจในคุณภาพของทุกขั้นตอน ความมุ่งมั่นของ Rolex ในด้านความเป็นเลิศนั้นเริ่มต้นนับตั้งแต่แหล่งกำเนิด