




หน้าปัดเปลือกหอยมุก
ลักษณะเด่นของหน้าปัดรุ่นนี้คือความงดงามของเพชรเจียระไนสี่เหลี่ยมยาว 10 เม็ด เปลือกหอยมุกเต็มไปด้วยความลึกลับและความน่าค้นหาโดยธรรมชาติของมัน มันอาจมีสีชมพู สีขาว สีดำ หรือสีเหลือง ขึ้นอยู่กับแหล่งกำเนิด สีที่แตกต่าง ความเข้ม และองค์ประกอบเกิดจากส่วนของเปลือกหอยที่ถูกสกัดออกมา ที่ Rolex เปลือกหอยมุกจะไม่ถูกเติมแต่งด้วยสีเลียนแบบธรรมชาติ แต่จะนำทักษะและความเชี่ยวชาญเฉพาะทางมาใช้เพื่อเน้นความงามตามธรรมชาติและรักษาสีเดิมเอาไว้ เนื่องจากหน้าปัดเปลือกหอยมุกทุกชิ้นเป็นผลงานที่เปี่ยมด้วยเอกลักษณ์ จึงสามารถมั่นใจได้ว่าจะไม่พบหน้าปัดชนิดเดียวกันบนข้อมือของบุคคลอื่น


ขอบหน้าปัดแบบร่อง
ขอบหน้าปัดแบบร่องของ Rolex เป็นสัญลักษณ์ของความแตกต่าง แต่เดิมร่องของขอบหน้าปัด Oyster มีขึ้นด้วยวัตถุประสงค์ด้านการใช้งาน โดยทำหน้าที่ยึดขอบหน้าปัดลงบนตัวเรือนเพื่อประกันประสิทธิภาพในการกันน้ำของนาฬิกา ดังนั้นจึงเหมือนกับร่องบริเวณตัวเรือนด้านหลัง ซึ่งต้องใช้เครื่องมือพิเศษเฉพาะของ Rolex ในการสกรูลงบนตัวเรือนเพื่อการกันน้ำ แต่เมื่อเวลาผ่านไปการเซาะร่องได้กลายเป็นองค์ประกอบที่มีความงดงาม และเป็นเอกลักษณ์อันโดดเด่นของ Rolex อย่างแท้จริง ปัจจุบันขอบหน้าปัดแบบร่องเป็นสัญลักษณ์ของความแตกต่าง Day-Date 36 เรือนนี้ทำจากทองคำ


ทองคำขาว 18 กะรัต
จากการใช้งานโรงหล่อเฉพาะของแบรนด์ ทำให้ Rolex สามารถหล่อโกลด์อัลลอย 18 กะรัต คุณภาพสูงสุดได้อย่างเหนือชั้น ตามสัดส่วนของเงิน ทองแดง แพลทินัม หรือพาลาเดียมที่เติมเข้าไป จะได้ทอง 18 กะรัตประเภทต่างๆ เช่น ทองคำ ทองคำขาว และ Everose gold โดยจะผลิตจากโลหะที่มีความบริสุทธิ์มากที่สุดเพียงเท่านั้น และผ่านการตรวจสอบภายในห้องปฏิบัติการของ Rolex อย่างพิถีพิถันด้วยเครื่องมือทันสมัย ก่อนที่จะมีการหล่อและขึ้นรูปทองคำ ด้วยความใส่ใจในคุณภาพของทุกขั้นตอน ความมุ่งมั่นของ Rolex ในด้านความเป็นเลิศนั้นเริ่มต้นนับตั้งแต่แหล่งกำเนิด


รุ่นที่วางจำหน่าย



