menu
rolexlogo
rolex-plague-logo
เมนู
Cosmograph Daytona v7-rolex-cosmograph-daytona-cover-m126509-0001_2402jva_001_portrait

Rolex Cosmograph Daytona

มือหนึ่งในเรื่องความทนทาน

Oyster Perpetual Cosmograph Daytona เปิดตัวในปี 1963 นับเป็นไอคอนของโลกแห่งการผลิตนาฬิกามาอย่างช้านาน ชื่อที่เชื่อมโยงอย่างแยกไม่ออกกับสนามแข่งรถชื่อดังที่ชายหาดเดย์โทนา ในรัฐฟลอริดาได้แสดงถึงความสัมพันธ์ของ Rolex ที่มีต่อกีฬาแข่งรถ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการแข่งรถแบบเอ็นดูรานซ์ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในโลก สถานะที่เป็นตำนานนั้นมาจากหน้าปัดที่มาพร้อมกับวงกลมที่มีลักษณะตัดกัน และทำให้ผู้คนสามารถจดจำนาฬิกาเรือนนี้ได้ในทันทีที่พบเห็น Cosmograph Daytona ผ่านการพัฒนาอย่างต่อเนื่องตลอดหลายปีที่ผ่านมา และมีความสมบูรณ์แบบมากขึ้นเรื่อยๆ นาฬิกา Cosmograph Daytona จึงเป็นเพื่อนคู่ใจที่เชื่อถือได้และมีความเที่ยงตรงสำหรับผู้ที่เลือกเส้นทางของตนเอง

Cosmograph Daytona คือผลงานจากความเชี่ยวชาญของ Rolex ที่โดดเด่น ทั้งยังคงคุณค่าในความเป็นเรือนเวลาที่เที่ยงตรงและน่าเชื่อถือจนไม่ทำให้ใครผิดหวัง

Cosmograph Daytona v7-ro06851

รูปลักษณ์แห่งตำนาน

ขอบตัวเรือน ตัวเลขบอกจำนวนนาที และส่วนแสดงเวลาขนาดเล็กบริเวณสามนาฬิกาต่างเป็นหนึ่งในห้าองค์ประกอบเด่นของ Cosmograph Daytona ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา การออกแบบต่างๆ ทั้งหน้าปัด การผสมผสานสี และสถาปัตยกรรมตัวเรือนนั้นมีการปรับแต่งอยู่ตลอด เพื่อให้นาฬิการุ่นนี้ยังคงความงามหรูหราเหมือนเช่นเดิม


สเกลวัดความเร็วที่อยู่บริเวณขอบหน้าปัดของนาฬิกาถือเป็นองค์ประกอบหลักที่สร้างเอกลักษณ์ให้ Cosmograph Daytona มันสามารถจับความเร็วได้สูงถึง 400 กิโลเมตรหรือไมล์ต่อชั่วโมง โดยใช้เข็มวินาทีตรงกลาง

Cosmograph Daytona v7-rolex-cosmograph-daytona-movt4131_2301uf_001_portrait

Calibre 4131: คือกลไกการทำงานโครโนกราฟที่สุดยอดที่สุดเท่าที่เคยมีมา

นาฬิกา Cosmograph Daytona มาพร้อมกลไกคาลิเบอร์ 4131 กลไกการทำงานโครโนกราฟนี้วิวัฒนาการมาจากคาลิเบอร์ 4130 และผ่านการพัฒนาและผลิตขึ้นโดย Rolex ทั้งหมด โดยเปิดตัวในปี 2023 นี้ และมาพร้อมกับนวัตกรรมสำคัญต่างๆ ที่ Rolex นำมาใช้กับกลไกการทำงาน ได้แก่ ชุดกลไกปล่อยจักร Chronergy ตัวดูดซับแรงกระแทก Paraflex และตลับลูกปืนเม็ดกลมที่ได้รับการปรับเพิ่มสมรรถนะ

Cosmograph Daytona v7-rolex-cosmograph-daytona-m126506-0001_2301ac_003_portrait

คาลิเบอร์นี้มาพร้อมกับลูกเหวี่ยงแบบคัตเอาต์ และการตกแต่งสะพานจักรด้วยการตกแต่งแบบ Rolex Côtes de Genève ซึ่งเป็นการดัดแปลงการแต่งผิวแบบดั้งเดิมอันเป็นเอกลักษณ์ของการผลิตนาฬิกาสวิส


สำหรับรุ่นแพลทินัม 950 อันเป็นที่จดจำจากหน้าปัดสีไอซ์บลูนั้น ส่วนของลูกเหวี่ยงทำจากทองคำ 18 กะรัต และผู้สวมใส่สามารถมองเห็นได้ผ่านตัวเรือนด้านหลังแบบโปร่งใสที่รังสรรค์ขึ้นจากแซฟไฟร์

Cosmograph Daytona v7-rolex-cosmograph-daytona-m126518ln-0012_2301ac_003_portrait

สาย Oysterflex:ความสบายครบวงจร

Cosmograph Daytona ในรุ่นวัสดุทองคำ 18 กะรัต มาพร้อมขอบตัวเรือน Cerachrom และมีวางจำหน่ายเฉพาะกับสาย Oysterflex เท่านั้น นวัตกรรมระดับสิทธิบัตรโดย Rolex นี้ผสมผสานคุณสมบัติของสายนาฬิกาโลหะในด้านความทนทานเข้ากับความสวมใส่สบายแบบสายอีลาสโตเมอร์ได้อย่างลงตัว มาพร้อมชุดตัวล็อกนิรภัย Oysterlock เพื่อป้องกันสายนาฬิกาเลื่อนเปิดออกโดยไม่ตั้งใจ นอกจากนี้ยังสามารถปรับสายได้เองด้วยระบบขยายสาย Rolex Glidelock อันชาญฉลาด

Cosmograph Daytona v7-rolex-2-5
Cosmograph Daytona v7-rolex-cosmograph-daytona-m126506-0001_2301_fb_004_portrait

ฉีกกรอบขนบเดิม

นับตั้งแต่เปิดตัวเป็นต้นมา Cosmograph Daytona ก็ได้กลายเป็นนาฬิกาที่ได้รับเลือกโดยผู้ที่หลงใหลในกีฬาแข่งรถ อย่างเช่น Paul Newman นักแสดงระดับตำนาน นักแข่งรถผู้เปี่ยมประสบการณ์ และผู้บุกเบิกการประกอบการเพื่อสังคมเลือกสวมใส่ หรือจะเป็น Sir Jackie Stewart บุคคลสำคัญของ Formula 1® รวมถึง Tom Kristensen นักแข่งรถชาวเดนมาร์กที่สร้างประวัติศาสตร์การแข่งรถแบบเอ็นดูรานซ์ และ Jamie Chadwick นักแข่งรถสาวชาวอังกฤษที่ได้กลายเป็นต้นแบบของนักแข่งหญิงเดี่ยวคนใหม่ และยังมีนักแข่งรถอีกหลายคนที่นำเอาโครโนกราฟไปใช้ในชีวิตจริงนอกสนามแข่ง

rolex crown
arrowกลับไปด้านบน
1999 - 2024 © The Hour Glass Limited. All Rights Reserved.
FacebookInstagramLinkedInYoutube