หน้าปัดเปลือกหอยมุก
ลักษณะเด่นของหน้าปัดรุ่นนี้คือความงดงามของเพชรประดับทองคำ 18 กะรัต เปลือกหอยมุกเต็มไปด้วยความลึกลับและความน่าค้นหาโดยธรรมชาติของมัน มันอาจมีสีชมพู สีขาว สีดำ หรือสีเหลือง ขึ้นอยู่กับแหล่งกำเนิด สีที่แตกต่าง ความเข้ม และองค์ประกอบเกิดจากส่วนของเปลือกหอยที่ถูกสกัดออกมา ที่ Rolex เปลือกหอยมุกจะไม่ถูกเติมแต่งด้วยสีเลียนแบบธรรมชาติ แต่จะนำทักษะและความเชี่ยวชาญเฉพาะทางมาใช้เพื่อเน้นความงามตามธรรมชาติและรักษาสีเดิมเอาไว้ เนื่องจากหน้าปัดเปลือกหอยมุกทุกชิ้นเป็นผลงานที่เปี่ยมด้วยเอกลักษณ์ จึงสามารถมั่นใจได้ว่าจะไม่พบหน้าปัดชนิดเดียวกันบนข้อมือของบุคคลอื่น
ขอบหน้าปัดประดับเพชร
ช่างประดับอัญมณีเสมือนดั่งนักประติมากรรมผู้สลักเสลาโลหะมีค่าเพื่อเป็นฐานรองรับอัญมณีแต่ละชิ้นที่ได้รับการจัดเรียงด้วยความบรรจงของชิ้นงานที่สมบูรณ์แบบ ด้วยทักษะทางศิลปะและฝีมือของช่างทำอัญมณี หินมีค่าเหล่านี้จะถูกจัดเรียงด้วยความพิถีพิถันและยึดไว้อย่างแน่นหนาเข้ากับวัสดุทองคำหรือแพลทินัม นอกจากคุณสมบัติที่มีอยู่ตามธรรมชาติของอัญมณีแล้ว หลักเกณฑ์อื่นๆ ที่ช่วยเพิ่มความงามจากการจัดเรียงอัญมณีของ Rolex ประกอบด้วยการจัดเรียงความสูงของอัญมณีด้วยความแม่นยำ ทั้งตำแหน่งและระดับ ความสม่ำเสมอ ความแข็งแรงและสัดส่วนในการจัดเรียง รวมถึงความประณีตในการตกแต่งชิ้นงานโลหะขั้นตอนสุดท้าย ความงดงามเป็นประกายเพื่อเพิ่มเสน่ห์ให้แก่เรือนเวลาและผู้สวมใส่
ทองคำ 18 กะรัต
จากการใช้งานโรงหล่อเฉพาะของแบรนด์ ทำให้ Rolex สามารถหล่อโกลด์อัลลอย 18 กะรัต คุณภาพสูงสุดได้อย่างเหนือชั้น ตามสัดส่วนของเงิน ทองแดง แพลทินัม หรือพาลาเดียมที่เติมเข้าไป จะได้ทอง 18 กะรัตประเภทต่างๆ เช่น ทองคำ ทองคำขาว และ Everose gold โดยจะผลิตจากโลหะที่มีความบริสุทธิ์มากที่สุดเพียงเท่านั้น และผ่านการตรวจสอบภายในห้องปฏิบัติการของ Rolex อย่างพิถีพิถันด้วยเครื่องมือทันสมัย ก่อนที่จะมีการหล่อและขึ้นรูปทองคำ ด้วยความใส่ใจในคุณภาพของทุกขั้นตอน ความมุ่งมั่นของ Rolex ในด้านความเป็นเลิศนั้นเริ่มต้นนับตั้งแต่แหล่งกำเนิด